หลายคนคิดว่าการพากย์เสียงนั้นไม่จำเป็นเพราะไม่ต้องใส่เสียงพากย์ก็ได้หรือพากย์เองก็ได้ แต่สำหรับงานบางประเภทแล้วเสียงพากย์ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้เลย เช่น สปอตวิทยุและโทรทัศน์ เพราะหากไม่ใส่เสียงพากย์ก็จะทำให้ไม่เข้าใจว่ากำลังสื่อถึงอะไร เสียงพากย์จึงไม่ใช่แค่เสียงที่ใส่เพราะความเท่หรือความเก๋เพียงอย่างเดียวแต่ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง วันนี้จึงมี 3 เหตุผลสำคัญในการพากย์เสียงมาบอกกันว่าทำไมถึงควรใช้และดีอย่างไร

  • คุณภาพเสียงดี เสียงดัง ฟังชัด กว่าจะเป็นเสียงพากย์ที่อยู่ในโฆษณาหรือสปอตโฆษณาต่าง ๆ นั้นต้องผ่านขั้นตอนการพากย์เสียงหลายอย่างเพื่อให้เสียงออกมามีคุณภาพดี มีการใช้เครื่องมือการอัดเสียงโดยเฉพาะ ทำให้เสียงออกมาดังฟังชัด และน่าฟัง ไม่ว่าจะนำไปใช้บนสื่อแบบไหนก็ให้เสียงที่มีคุณภาพดีและน่าสนใจ
  • น้ำเสียงไพเราะ น่าฟัง เข้าใจง่าย เสน่ห์ของนักพากย์คือมีน้ำเสียงที่ไพเราะและน่าฟัง เป็นน้ำเสียงที่น่าหลงใหล ใครได้ยินก็อยากฟัง และกว่าที่จะได้เสียงเพราะ ๆ แบบนี้ก็ต้องผ่านการทดสอบและฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เมื่อบวกกับประสบการณ์การทำงานแล้วจึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะไม่อยากได้เสียงเพราะ ๆ แบบนี้ไปใส่ในโฆษณา หรือหากใครที่เคยกดเข้าไปฟังเสียงของนักพากย์ในเว็บไซต์รับพากย์เสียงก็คงจะทราบดีว่าเสน่ห์ของเสียงพากย์แต่ละคนนั้นน่าดึงดูดแค่ไหน
  • สะดวก ประหยัดเวลา สามารถนำไปใช้ได้เลย นอกจากจะไม่ต้องมานั่งพากย์เสียงเองให้ยุ่งยากแล้วยังสามารถเลือกได้ดั่งใจว่าต้องการโทนเสียงแบบไหน น้ำเสียงแบบไหน ฟิลลิ่งแบบไหน ต้องการนักพากย์คนไหน หรือพากย์เป็นภาษาอะไร ทางทีมงานจะทำการดำเนินงานให้ตามความต้องการ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาการลงเสียงเองและการติดต่อหานักพากย์เองด้วย ช่วยให้ประหยัดเวลาลงไปได้เยอะเลย อีกทั้งเมื่อได้รับงานมาแล้วก็สามารถนำไปใช้ในทันที

และนี่คือ 3 เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการพากย์เสียง จะเห็นว่ามีข้อดีหลายอย่างเลย เป็นศูนย์รวมนักพากย์ที่สามารถเข้าไปใช้บริการได้ทุกเมื่อ ต้องการเสียงลงโฆษณาไปใช้กับรถแห่โฆษณาก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ ต้องการเสียงลงวิดีโอสินค้าก็เลือกได้ ต้องการเสียงพากย์ใส่ในตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติก็ทำได้ เป็นแหล่งรวมนักพากย์ที่พร้อมให้บริการในทุกเรื่องเสียงพากย์

เทคนิคง่าย ๆ ในการเลือกนักพากย์ สำหรับใครที่เลือกไม่ได้ว่าจะเลือกนักพากย์คนไหนดีเพราะเสียงคนนี้ก็น่าฟัง เสียงคนนั้นก็มีเสน่ห์ เรามีเทคนิคมาบอกกัน นั่นคือการเลือกให้เหมาะสมกับประเภทงาน หากเป็นงานโฆษณาสินค้าสำหรับคนทั่วไปควรเลือกโทนเสียงที่นุ่ม ใส แต่หากเป็นโฆษณาสินค้าเกี่ยวกับเครื่องใช้หรือของใช้สำหรับผู้ชายควรเลือกเสียงผู้ชายที่หนักแน่น เท่ และเข้ากับสินค้านั้น ๆ เท่านี้ก็เลือกได้ง่าย ๆ แล้ว